แนะนำวิธีการเลือกไว้กิ่งมะละกอหลังตัดต้นทำสาว
ให้ติดลูกดกที่เห็นในบทความนี้จะเป็นมะละกอฮอลแลนด์ทั้งหมดที่ปลูกในสวนผมเอง
มะละกอฮอลแลนด์ |
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามะละกอหลังปลูกได้สักระยะคือประมาณ
7-8 เดือนก็จะเริ่มให้ผลผลิต พอเก็บมะละกอจนหมดต้นหมดฤดูกาล ก็จะเป็นช่วงที่เรียกว่า
“มะละกอหมดคอ หรือมะละกอขาดคอ” ก็ต้องรอเก็บรอบปีต่อไปจากต้นเดิม ซึ่งอาจทำให้ต้นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
จากผลผลิตที่ต่อเนื่องกันหลายปี เป็นอุปสรรคในการเก็บเพราะต้องใช้บันไดปีนเก็บ ที่สวนผมจึงมีการตัดต้นทำสาวทุกการเก็บเพียง 1 รอบ เพื่อให้แตกกิ่งใหม่ ให้ได้มะละกอต้นเตี้ย
ได้ต้นกะเทย หรือต้นสมบูรณ์เพศเหมือนเดิม และเป้าหมายหลักก็คือเพื่อให้ได้ผลผลิตเพิ่ม
โดยที่ไม่ต้องปลูกใหม่
มะละกอหลังตัดต้นทำสาว |
การตัดต้นทำสาวมะละกอก็สามารถทำได้ง่ายๆเพียงเรากะระยะจากโคนต้น
(ต้นที่จะตัดทำสาว) ขึ้นมาประมาณ 1 เมตร แล้วใช้มีดหรือเลื่อยตัดส่วนบนทิ้ง
จากนั้นก็คลุมด้วยถุงพลาสติกเพื่อกันน้ำเข้าไปขังในลำต้น ไม่ให้กิ่งแขนงมะละกอที่แตกออกมาใหม่เกิดอาการใบเหลืองต้นโทรมนั่นเอง
ในช่วงที่ตัดต้นทำสาวก็จะไม่ให้น้ำบ่อยเกินไป
คือจะให้น้ำทุก 3 วัน/ครั้ง
อันนี้ก็ต้องพิจารณาจากสภาพอากาศด้วย ส่วนใหญ่ที่สวนผมจะตัดต้นทำสาวช่วงปลายเดือนเมษายนเป็นต้นไป
พอผ่านไปประมาณ 2 -3 สัปดาห์ ต้นมะละกอที่ตัดก็จะแตกยอดออกมาใหม่ คำถามคือ
“เราจะเลือกกิ่งแบบไหน เพื่อให้ได้กิ่งที่สมบูรณ์ติดผลดกแทนต้นแม่เดิมที่เราตัดทิ้งไป?”
โดยส่วนตัวผมแล้วจะเลือกกิ่งที่อยู่ส่วนล่างของต้นมะละกอที่ตัด
เพราะจะเป็นกิ่งที่แข็งแรงมีเนื้อเยื่อที่ประสานจากลำต้นมากที่สุด
ส่วนยอดที่แตกแขนงด้านบนจะทยอยเด็ดออก เพราะเป็นกิ่งที่จะต่อยอดสูงทำให้เก็บผลผลิตลำบาก
และเพื่อป้องกันเพลี้ยต่างๆที่จะเข้ามาทำลายยอดอ่อนของมะละกอด้วย จะเหลือไว้เฉพาะกิ่งแขนงที่อยู่ด้านล่าง
รอให้โตสักระยะประมาณขนาดท่อ 4 หุน หรือมีรัศมีประมาณ 2-3 เซนติเมตร ก็จะทำการคัดเลือกกิ่งมะละกอ
เพื่อไว้แทนต้นแม่ที่ตัดทิ้งต่อไป
ลักษณะกิ่งมะละกอที่ดี (ควรเลือกไว้) |
ในการคัดเลือกกิ่งของมะละกอที่แตกแขนงออกมาใหม่
ผมจะเลือกไว้เฉพาะกิ่งที่มีเนื้อเยื่อประสานกับต้นแม่มากที่สุดซึ่งจะอยู่ด้านล่างหรือระหว่างกลางลำต้นที่ตัดออก
ซึ่งสังเกตได้จากช่วงรอยต่อของกิ่งจะเฉียงขึ้นด้านบนประมาณ 30-45 องศา
รอยต่อหรือรอยที่แตกแขนงออกมาควรประสานกันดีเหมือนที่เห็นในภาพ กิ่งในลักษณะนี้เมื่อโตขึ้นก็จะเชื่อมติดประสานต้นแม่เป็นต้นเดียวกันจะให้ผลดก
ให้ผลคุณภาพเหมือนต้นแม่เดิม ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักหรือรูปทรงผล
รสชาติและความหวานต่างๆก็ยังคงอยู่
ลักษณะกิ่งที่ไม่ดีควรตัดทิ้ง |
ส่วนกิ่งที่มีลักษณะไม่ดีที่ผมจะทำลายทิ้งก็คือกิ่งที่ออกจากต้นแม่ในลักษณะตรงออกมาประมาณ
60-70 องศาแล้วโค้งขึ้นบน คือจะไม่เฉียง 45 องศากับลำต้นแม่เดิม
มีลักษณะคล้ายแตกยอดออกมาจากตาข้างผิวเปลือกของต้นแม่ คือ เหมือนกับเนื้อเยื่อไม่ประสานกันดี
ประสานแค่ส่วนผิวเปลือกเหมือนในภาพด้านบนนี้เลยครับ เพราะกิ่งแขนงมะละกอลักษณะนี้ทำให้หักง่ายเมื่อโดนลมพัด
ต้องใช้ไม้ค้ำยันเอาไว้ และที่สำคัญผลผลิตที่ออกมาจากกิ่งในลักษณะนี้แม้รูปทรงจะสวย
แต่ก็จะเป็นผลที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ได้น้ำหนัก ซึ่งน้ำหนักเฉลี่ยอาจได้แค่ผลละประมาณ
2-3 ขีด ถือว่าเป็นผลตกเกรดขายไม่ได้ราคา ผมจะทำการเด็ดกิ่งที่มีลักษณะแบบนี้ทิ้ง
เหลือไว้เฉพาะกิ่งที่ออกจากตาข้างแล้วเฉียงขึ้นบนเหมือนในภาพที่นำมาให้ชมด้านล่างนี้
กิ่งแขนงมะละกอที่ดี |
มะละกอที่สวนผมจะเก็บแค่
1 ฤดูกาลเท่านั้นจากนั้นก็จะตัดต้นทำสาว ที่ผ่านมาได้มีการทดลองไว้ 1 – 2 หรือ 3
กิ่ง/ต้น หลังตัดทำสาวทุกปีเพื่อเปรียบเทียบผลผลิต และคุณภาพ สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปคือถ้าพื้นที่ปลูกของเราอุดมสมบูรณ์ดี
ก็จะเอาไว้ 2 กิ่งบ้าง 3 กิ่งบ้างตามสมควร ผลผลิตก็จะมากขึ้นเป็นอีกเท่าตัวเลยทีเดียวครับ
ต้นมะละกออายุ 4 ปีครึ่ง หลังตัดต้นทำสาวรอบที่ 3 |
ภาพด่านบนที่เห็นคือต้นมะละกอที่ตัดทำสาวรอบที่
3 วันที่ตัดคือวันที่ 26 เมษายนปี2020นี้ (เมื่อวาน)
ปัจจุบันมะละกอต้นนี้อายุสี่ปีครึ่งที่ผ่านมาก็ยังให้ผลผลิตดกต่อเนื่อง
อันนี้ก็รอแตกยอดใหม่จะเหลือไว้สัก 3 กิ่งคาดว่าคงได้เก็บผลิตเกิน 5 ปีแน่นอน
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็คือเทคนิคการเลือกไว้แขนงหรือกิ่งมะละกอฮอลแลนด์เพื่อให้ได้ผลผลิตดกเพิ่มอีกเท่าตัวที่ผมใช้มา
เหมือนเราเก็บผลผลิตจากมะละกอ 2 ต้น ในต้นเดียวโดยที่ไม่ต้องปลูกใหม่
เพราะผมจะไว้สองกิ่งนั่นเอง ก็ถือว่านำมาเล่าสู่กันฟัง
เผื่อมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังสนใจและคิดจะปลูกมะละกอไว้รับประทานเองในครัวเรือน
หรือจะปลูกในเชิงพาณิชย์ก็ลองไปพิจารณาดูนะครับ.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น