ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2014

น้ำมะละกอ สูตรล้างสารพิษในลำไส้

น้ำมะละกอ มะละกอ จัดว่าเป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ แถมยังมีคุณค่าในทางโภชนาการและสรรพคุณทางยาอยู่มากมาย เพราะในมะละกอจะมีเอนไซม์ตามธรรมชาติที่มีชื่อว่า “พาเพน ” (Papain) ซึ่งเอนไซม์ที่ว่านี้จะมีฤทธิ์ในการย่อยสลายและช่วยในการแตกตัวของโปรตีนให้เร็วขึ้น จึงถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการทำความสะอาดหรือล้างพิษในลำไส้ด้วยวิธีทางธรรมชาติ อีกทั้งมะละกอยังมีสรรพคุณทางยาอื่นๆมากมาย เช่น ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยขับประจำเดือน ช่วยทำความสะอาดไต และเป็นยาระบายอ่อนๆด้วยนะครับ ส่วนผสมสำหรับทำน้ำ มะละกอ 1. ผลมะละกอดิบปอกเปลือกล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นๆ ประมาณ ½ ลูก หรือประมาณ 3 กำมือ 2. น้ำเปล่า 3. ใบชา วิธีทำน้ำมะละกอ สูตรล้างสารพิษในลำไส้ นำผลมะละกอดิบลงต้มในหม้อจนเดือด และปล่อยให้น้ำเดือดประมาณ 3 นาที จึงยกลงจากเตา ตักเนื้อมะละกอออก จากนั้นให้นำน้ำมะละกอที่ได้ไปชงชา (ใส่ใบชาตามปกติที่เราชงดื่ม) จากนั้นให้กรองเอากากใบชาทิ้งไป เราก็จะได้น้ำมะละกอพร้อมดื่มแล้วล่ะครับ * น้ำมะละกอ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กระบวนการย่อยสลายไขมันและล้างไขมันออกจากลำไส

มะละกอเม็กซิโก

สองสายพันธุ์มะละกอเม็กซิโก ที่สำคัญ มะละกอเม็กซิโก มะละกอเม็กซิโก เป็นมะละกอลูกใหญ่ เปลือกหนา มีน้ำหนักประมาณ 1.5-3 กิโลกรัม เป็นมะละกอที่ให้ผลผลิตสูง แต่เนื้อไม่หวานเท่ามะละกอพันธุ์ฮาวาย แต่ก็มีลักษณะที่โดดเด่นคือ เป็นสายพันธุ์มะละกอที่ค่อนข้างทนทานต่อโรคไวรัสจุดวงแหวนได้ดีกว่ามะละกอพันธุ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีมะละกอพันธุ์อื่นๆ ซึ่งค่อนข้างเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในระดับโลก หลักๆก็มีอยู่สองสายพันธุ์คือ 1. Mexican red ( หรือ Maradol) เนื้อในจะมีสีแดง 2. Mexican yellow เนื้อในจะมีสีส้มเหลืองสดน่ารับประทาน มะละกอเม็กซิโก เป็นสายพันธุ์มะละกอที่มีลักษณะโดดเด่นน่าสนใจ คือ - Tainung 1 เป็นมะละกอสายพันธุ์ของไต้หวัน น้ำหนักผลขนาด 800 -1,500 กรัม เนื้อมีสีแดง มีรสหวาน หอม สามารถเก็บไว้ได้นาน - Red lady เป็นมะละกอสายพันธุ์ของไต้หวันเช่นกัน แต่เป็นสายพันธุ์มะละกอที่ทนทานต่อโรคไวรัสจุดวงแหวนสูง เนื้อข้างในหนา และมีสีแดงน่ารับประทาน ผลมี ขนาดน้ำหนักประมาณ 1.5 - 2 กิโลกรัม - Cariflora เป็น มะละกอ พันธุ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาได้ไม่นาน ทนทานต่อโรคไวรัสจุดวงแหวนได

มะละกอ อันเป็นที่รู้จักในวงการตลาดโลก

สายพันธุ์มะละกอในวงการตลาดโลก มะละกอ อันที่เป็นที่รู้จัก และมีการผลิตและจำหน่ายซื้อขายกันในวงกว้างไม่ใช่แค่เพียงบ้านเราเท่านั้น ในวงการตลาดโลกยังมีมะละกอที่เลื่องชื่อ หรือที่เรียกว่า มะละกอ ในกลุ่ม “Solo” หรือที่บ้านเรามักเรียกกันว่ามะละกอฮาวาย และมะละกอพันธุ์เม็กซิโก มีรายละเอียดดังนี้ครับ - มะละกอในกลุ่มโซโล หรือมะละกอฮาวาย เป็นมะละกอสดที่มีการซื้อขายเป็นหลักอยู่ในตลาดโลกลักษณะทั่วไป คือผลขนาดเล็ก ประมาณ 300-500 กรัม ผลทรงลูกแพร์ (บ้างเรียกทรงระฆัง)มีคอเล็กๆ ตรงขั้ว เนื้อละเอียด หอมหวาน สีของเนื้อจะอ่อนกว่าพันธุ์ของไทย มีทั้งสีเหลืองอมส้มหรือเหลืองจำปาและส้มออกแดงที่เรียกว่าสีแซลมอน - Waimanalo เป็นมะละกอต้นเตี้ย ผลผลิตสูง และมีความทนทานโรคและแมลง เนื้อมีสีส้มเหลือง มีกลิ่นเฉพาะตัว มีรสหวานจัด โดยวัดความหวานได้ประมาณ 14 องศาบริกซ์ - Kapoho solo/ Solo เป็นมะละกอพันธุ์ที่นิยมปลูกมากที่สุดในฮาวายก่อนที่จะถูกโรคไวรัสจุดวงแหวนเข้าทำลายเป็นส่วนใหญ่เนื้อสีเหลืองจำปา มีความหวานประมาณ 13 องศาบริกซ์ เปลือกแข็ง ทนต่อการขนส่งวางขายได้นาน - Puna solo คล้ายกับคาโปโฮโซโลมา

สุดยอดมะละกอส้มตำ พันธุ์แขกนวลดำเนิน

มะละกอแขกนวลดำเนิน มะละกอแขกนวลดำเนิน จัดว่าเป็นมะละกอที่เลื่องชื่อในวงการส้มตำมานาน เพราะเป็นมะละกอที่กรอบกว่าทุกสายพันธุ์เลยก็ว่าได้ เรื่องนี้แม่ค้าส้มตำระดับมืออาชีพก็น่าจะรู้ดี แถมยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจตลาดมีความต้องการสูง เฉลี่ยต่อต้นแล้วผลผลิตที่ได้เท่ากับต้นละ 200 - 300 กิโลกรัมต่อต้นต่อปีเลยทีเดียว สมมุติว่าถ้าเรามีพื้นที่สำหรับปลูกมะละกอแขกนวล 1 ไร่ ปลูกด้วยระยะห่าง 2 x 2 เมตร จะปลูกมะละกอได้จำนวน 400 ต้น ก็จะได้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 8 -10 ตันต่อไร่ต่อปีเลยทีเดียว หากคำนวณราคาเพียงแค่กิโลกรัมละ 4 บาท เราก็จะมีรายได้โดยประมาณ 32,000 - 40,000 บาทต่อไร่เลยทีเดียวครับ ส่วนการปลูก มะละกอแขกนวลดำเนิน นั้น ก็ไม่มีอะไรยาก ซึ่งส่วนใหญ่นิยมปลูกโดยวิธีการเพาะเมล็ด จากนั้นค่อยย้ายกล้าลงแปลงปลูกเมื่อต้นกล้ามีอายุได้ประมาณ 1เดือน ภาพจาก http://www.nanagarden.com วิธีการเพาะเมล็ด มะละกอแขกนวลดำเนิน ก่อนอื่นให้เรานำเมล็ดมะละกอแช่น้ำอุ่นประมาณ 60 องศา แช่ทิ้งไว้ 1 คืน จะสังเกตเห็นว่าเมล็ดมะละกอมีลักษณะบวมพอง จากนั้นให้นำเมล็ดมะละกอมาเพาะในถุงเพาะชำขนาด 5 x 8 นิ้ว ที่ใส่ว

ประโยชน์ของน้ำส้มควันไม้

น้ำส้มควันไม้ น้ำส้มควันไม้ เป็นของเหลวที่ได้จากการกลั่นตัวของควันที่ควบแน่นให้เป็นหยดน้ำ ซึ่งจะมีกลิ่นไหม้เหมือนควันไฟ ส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นกรด อะซิติค   มีความเป็นกรดต่ำ มีสีส้มหรือสีน้ำตาลแกมแดง การผลิตน้ำส้มควันไม้ วิธีการดักเก็บน้ำส้มควันไม้จะให้ควันวิ่งผ่านท่อไม้ไผ่ยาว 4-6 เมตร เมื่อได้น้ำส้มควันไม้แล้วทิ้งไว้ในภาชนะพลาสติกมีฝาปิดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ในที่ที่ไม่ถูกแสงแดด ไม่สั่นสะเทือนห้ามเปิดฝาทิ้งไว้เพราะสารต่างๆจะระเหย น้ำส้มควันไม้ ประโยชน์ของ น้ำส้มควันไม้ 1. ในด้านอุตสาหกรรม -ใช้ผลิตสารระงับกลิ่นตัว - ใช้เป็นสารปรับผิวนุ่ม ใช้โดยตรงทางผิวหนังหรือผสมอาบน้ำ - ใช้ในอุตสาหกรรมอาหรรมควัน - ใช้ในอุตสาหกรรมย้อมผ้า - ใช้ผลิตสารป้องกันเนื้อไม้จากเชื้อราและแมลง - ใช้ผลิตยารักษาโรคผิวหนัง ยาฆ่าเชื้อ ไทฟอยด์ อาหารเสริมเพิ่มภูมิต้านทาน อาหารเสริมการทำงานของตับ - ใช้ผลิตสารช่วยย่อย ( Prebiotic ) 2. ใช้ในครัวเรือน - ความเข้มข้น 100% ใช้รักษาแผลสด แผลถูกน้ำร้อนและไฟลวก รักษาน้ำกัดเท้าเชื้อราที่ผิวหนัง รักษาโรคเรื้อนของสัตว์ - ผสมน้ำ 20 เท่า

มะละกอแขกดำสายพันธุ์ศรีสะเกษ

มะละกอแขกดำ ศรีสะเกษ “มะละกอแขกดำศรีสะเกษ” เป็นมะละกอแขกดำที่พัฒนาสายพันธุ์โดยศูนย์วิจัยพืชสวนจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็น มะละกอแขกดำ พันธุ์ต้นเตี้ย ติดผลเร็ว ลักษณะผลทรงกระบอกยาว น้ำหนักผลโดยเฉลี่ยประมาณ 1 กิโลกรัม มีเนื้อหนาแน่นสีแดงเข้ม เนื้อมะละกอสุกจะมีรสชาติหวานอร่อย โดยเฉลี่ยความหวานจะอยู่ที่ 13.52 องศาบริกซ์ ส่วนผลมะละกอดิบจะมีเนื้อกรอบเหมาะสำหรับทำส้มตำ เป็นที่ต้องการของตลาด “มะละกอแขกดำศรีสะเกษ” และเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์มะละกอที่ให้ผลผลิตสูงประมาณ 55-55 กิโลกรัม/ต้น หากมีการบำรุงรักษาที่ดี เกษตรกรสามารถเก็บผลดิบได้ราวๆ อายุ 3-4 เดือน หลังดอกบาน การเก็บผลสุกก็จะอยู่ราวๆ อายุ 5-6 เดือน หลังดอกบาน น้ำหนักผลเฉลี่ย 1.28 กิโลกรัม เป็นสายพันธุ์ มะละกอ ที่ติดผลค่อนข้างดก และเพื่อให้ผลิตมะละกอมีคุณภาพได้น้ำหนักดี และช่วยต้นมะละกอมีอายุยืนยาว และป้องกันการโค่นล้มของต้นมะละกอนั้น แนะนำให้ผู้ปลูกทำการปลิดผลมะละกอทิ้งบ้าง โดยเลือกปลิดผลกันมาก ผลเล็กๆ ผลที่ไม่สมบูรณ์ และผลมะละกอที่ออกจากดอกแขนง ก็จะทำให้ผล มะละกอ ที่เหลือมีขนาดใหญ่และมีคุณภาพดี ได้น้ำหนักสมบูรณ์ แถมยังทำให้ต้นมะล

สูตรน้ำหมักบำรุงต้นมะละกอ

มะละกอ น้ำหมักสูตรเพิ่มผลผลิตมะละกอ สำหรับปุ๋ยน้ำหมักสูตรนี้ เรียกว่า “สูตรอาหารจานด่วนบำรุงต้น เพิ่มผลผลิต มะละกอ ” โดยไม่ต้องพึ่งพาฮอร์โมนที่มีราคาแพง ที่โฆษณาขายตามอินเตอร์เน็ตหรือท้องตลาดทั่วไป แต่ประสิทธิภาพนั้น เป็นที่ยอมรับว่าไม่แพ้ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพงอย่างแน่นอนครับ เพราะผมทดลองใช้มาแล้ว..นำมาฝากอยากให้ลองใช้กันดู วัตถุดิบสำหรับทำ “น้ำหมักสูตรเพิ่มผลผลิต “มะละกอ ” มีดังนี้ - ไข่ไก่ 2 ฟอง (กะเทาะเปลือก) ตีป่นให้เข้ากัน - น้ำเปล่า (ไม่มีคลอรีน) 20 ลิตร - จูลินทรีย์หน่อกล้วย (สูตรเข้มข้น) 50 ซีซี หรือประมาณ 4 ช้อนแกง - ปุ๋ยยูเรีย 20 cc วิธีทำ : ให้เรานำส่วนผสมทั้งหมดนี้ มาหมักรวมกันประมาณ 7-10 วัน (อย่านานกว่านี้) จากนั้นก็นำมากรองเอาแต่น้ำหมักที่ได้ สามารถนำไปใช้ได้เลยครับ วิธีใช้ : ให้เรานำไปผสมกับน้ำเปล่า (ไม่มีคลอรีน) ฉีดพ่นตั้งแต่ มะละกอ ยังเป็นต้นกล้าเล็กๆ และช่วงระยะที่สำคัญเช่น ช่วงที่ “มะละกอ” ติดผลเล็กๆ แต่ห้ามฉีดพ่นช่วงที่มะละกอออกดอก ในอัตรา 10-15 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร หรือจะผสมกับน้ำในอัตราส่วนข้างต้น รดที่โคนต้นมะละกอทุก10-15 วัน ใบข