ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กันยายน, 2019

มาดู 6 ลักษณะเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของมะละกอฮอลแลนด์

    มะละกอฮอลแลนด์ ( Holland Papaya) มีชื่อเรียกดั้งเดิมก็คือ “ปลักไม้ลาย” ชื่อวิทยาศาสตร์ : Carica papaya จัดอยู่ในวงศ์ : Caricaceae   จัด เป็นผลไม้สุขภาพ นิยมรับประทานผลสุก ด้วยรสชาติที่หวานอร่อยเนื้อหนา ไม่เละ เป็นที่ต้องการของตลาด เป็นพืชล้มลุก ที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ปลูกได้ทั่วทุกภูมิภาค ชอบดินร่วนปนทราย ชอบความชื้น ไม่ชอบดินเหนียวและพื้นที่น้ำขัง สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี แถมยังให้ผลผลิตอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีอีกด้วย หากเกษตรกรมีความเข้าใจในพืชชนิดนี้ แต่ส่วนใหญ่นิยมปลูกในช่วงต้นฤดูฝน และปลายฤดูฝน เรียกได้ว่าปลูกเพียงครั้งเดียวสามารถอยู่ได้นานถึง 5 ปี แต่ต้นมะละกออาจจะสูงทำให้การเก็บเกี่ยวผลผลิตทำได้ยาก เกษตรกรส่วนใหญ่จะแก้ไขปัญหานี้ด้วยการตัดต้นทำสาวมะละกอ หรือการตอนกิ่งแขนงที่โผล่ออกมาจากต้นมะละกอที่สมบูรณ์ แล้วนำไปปลูก ก็จะได้มะละกอได้ต้นเตี้ย ลูกดก เก็บผลผลิตง่ายนั่นเองครับ ที่นี้เราดู 6 ลักษณะเด่น ที่เป็นเอกลักษณ์ของมะละกอฮอนแลนด์ที่เรานิยมปลูกกัน ว่ามีอะไรบ้าง ลำต้นมีจุดสีแดงเลือดหมู 1. ลำต้นมีจุดสีแดงเลือดหมู คือลำต้นช่วงโคนถึงประมาณกลางลำต้นจะมีแถบส

เผย 5 เคล็ดไม่ลับ!!..ปลูกมะละกอให้ได้ผลผลิตสูง

     บทความนี้เขียนจากประสบการณ์ของกระผมเองที่ได้ปลูกมะละกอฮอนแลนด์มาก็หลายรุ่น หลายฤดูกาล หลายสภาพพื้นดิน พอสรุปแนวทางที่จะทำให้ได้ผลผลิตสูง ผลผลิตมีคุณภาพ และที่สำคัญปลอดโรคอย่างง่ายๆ แต่ต้องอาศัยการดูแลเอาใจใส่และรู้หลักธรรมชาติของพืชเศรษฐกิจชนิดนี้นิดหน่อยเท่านั้นเองครับ       การที่จะปลูกมะละกอให้ได้ผลผลิตสูงจากที่ผมได้วิเคราะห์มาแบบไม่ได้อิงตาใดๆ ต้องมีองค์ประกอบครบ 5 อย่าง คือ ดินดี – น้ำได้ – สายพันธุ์เด่น – เอนต้น – ปลูกให้พ้นแนวแสงบดบัง ขออธิบายให้ฟังเป็นข้อๆ และในบทความนี้ขอยกตัวอย่างมะละกอฮอนแลนด์ในสวนผมเองนะครับ มะละกอฮอนแลนด์ 1. ดินดี คือต้องเลือกสภาพพื้นที่ปลูกของเราให้เหมาะสม ถ้าเป็นดินร่วนปนทรายจะดีมาก และดินแปลงปลูกต้องมีธาตุอาหารสมบูรณ์ ค่า PH (ค่ากรด-ด่าง) ของดินควรอยู่ที่ 6 - 7.5 สภาพพื้นที่ต้องไม่มีน้ำท่วมขัง เพราะมะละกอเป็นพืชที่ต้องการน้ำก็จริง แต่ไม่ชอบความชื้นแฉะหรือพื้นที่น้ำขัง หากเป็นที่เนินเราอาจทำการไถดะและไถแปร พร้อมวัดระยะปลูกได้เลย แต่ถ้าเป็นพื้นที่ราบควรยกร่องสูงประมาณ 50 เซนติเมตรหรือมากกว่านั้น และที่สำคัญที่สุด ควรปรับปรุงบำรุงดินก่อน ด้วยกา