มะละกอ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
คุณเคยรู้หรือไม่ว่าในเนื้อมะละกอ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่หลายชนิด
โดยฐานข้อมูลของวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, Philippine Herbal
Medicineและ USDA Nutrient database
ได้ระบุว่าในเนื้อมะละกอจะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยให้สุขภาพของคุณแข็งแรงช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ
ช่วยในการชะลอวัย ช่วยลบเลือนและป้องกันการเกิดริ้วรอยต่างๆได้ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายได้เป็นอย่างดีด้วย
และที่สำคัญสำหรับคุณสาวๆ แล้ว มะละกอยังสามารถนำมาใช้เป็นทรีทเม้นท์ ให้หน้าใสได้อีกด้วย
วิธีการก็คือให้นำมะละกอสุกผสมกับน้ำผึ้งและนมสด แล้วนำมาปั่นให้เข้ากัน
หลังจากนั้นนำมาทาผิวหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
แล้วค่อยล้างออก หากทำเป็นประจำเพียงเท่านี้คุณก็จะมีผิวพรรณที่ดูอ่อนกว่าวัย
สวยสดใสไร้ริ้วรอย ชนิดที่ว่าใครเห็นเข้า ก็อดที่จะเหลียวมองไม่ได้เลยทีเดียวครับ
มะละกอ
นอกจากจะนำไปแปรรูปเป็นเมนูอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแกงส้มมะละกอ หรือส้มตำมะละกอรสเด็ดได้แล้ว
ยังใช้นำมารับประทานเป็นผลไม้หรือของว่าง แถมยังนำมะละกอไปใช้หมักให้เนื้อนุ่มได้อีกด้วย
เพราะในมะละกอจะมีเอนไซม์ที่ชื่อว่า Papain ซึ่งเป็นส่วนประกอบของผงหมักสำเร็จรูปที่เราเห็นขายกันอยู่ตามท้องตลาดนั่นเองครับ
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะครับ เพราะในเนื้อมะละกอยังมีส่วนช่วยกระตุ้นให้มารดามีน้ำนมมากขึ้น
มีส่วนช่วยในการบำรุงประสาทและสมอง มีเอนไซม์ที่เป็นยาช่วยย่อยอาหารช่วยป้องกันลักปิดลักเปิด
หรือเลือดออกตามไรฟันได้ อีกทั้งยังช่วยรักษาอาการขัดเบา ด้วยการใช้รากสดประมาณ 1 กำมือ รากแห้งอีกครึ่งกำมือ หั่นแล้วนำมาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำมาดื่มวันละ 3 ครั้งก่อนรับประทานอาหาร
- ใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ
แก้อาการท้องผูก ด้วยการกินเนื้อมะละกอสุกจะช่วยในการย่อยอาหารเสริมระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ
- ใช้เป็นยาฆ่าพยาธิ
ด้วยการใช้ยางจากผลดิบซึ่งเป็นยาช่วยย่อยโปรตีน ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
- ใช้เป็นยาแก้ขัดเบา
จากรากมะละกอ ช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ
- ใช้รักษาอาการเท้าบวม
ด้วยนำใบมะละกอสดๆนำมาตำให้ละเอียดแล้วผสมกับเหล้าขาว แล้วนำมาพอกตรงบริเวณนั้นๆ
- ใช้รักษาอาการเคล็ดขัดยอก
ด้วยใช้รากมะละกอนำมาตำให้แหลกแล้วผสมกับเหล้าขาว แล้วนำมาทาบริเวณนั้นๆ
- ใช้รักษาอาการผดผื่นคันที่ขึ้นตามลำตัว ให้ใช้ใบมะละกอ 1 ใบ เกลือ 1
ช้อนชา น้ำมะนาวจำนวน 2 ผล นำมาตำรวมกันให้ละเอียดแล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นผดผื่น
– ใช้รักษาโรคกลาก เกลื้อน เท้าเปื่อย
ด้วยการใช้ยางมะละกอดิบมาทาวันละ 3 ครั้ง
จะสามารถช่วยฆ่าเชื้อราได้
- ใช้รักษาอาการคันอันเกิดมาจากพิษของหอยคัน
ด้วยการใช้ยางมะละกอดิบๆนำมาทาทั้งเช้าและเย็น หากโดนเสี้ยนหรือหนามตำหรือหนามหักคาเนื้อใน
หากนำยางมะละกอดิบมาทาหนามจะหลุดออกมา แต่ให้บ่งเปิดปากแผลก่อน หากโดนตะปูตำเท้าเป็นแผล
ให้นำผิวของลูกมะละกอดิบมาตำแล้วนำมาพอกแผล โดยเปลี่ยนใหม่วันละ 2
ครั้ง
– ใช้รักษาแผลพุพอง อักเสบ
ด้วยการใช้ใบมะละกอที่แห้งกรอบนำมาบดให้เป็นผง นำไปผสมกับน้ำกะทิผสมให้พอเหนียว
แล้วนำมาทาแผลวันละ 3 ครั้ง ใช้รักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก
ด้วยการใช้เนื้อมะละกอดิบๆ นำมาต้มจนเปื่อยๆ นำมาตำแล้วนำมาพอกบริเวณบาดแผล
- ใช้รักษาอาการปวดหลังปวดข้อต่างๆ
ด้วยรับประทานมะละกอสุกอย่างต่อเนื่องจะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้ ช่วยรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ
หรือกล้ามเนื้อไม่มีแรง ด้วยการใช้รากมะละกอตัวผู้นำมาแช่เหล้าขาวทิ้งไว้ 7 วัน และกรองเอาน้ำมาบริเวณที่ตามกล้ามเนื้อ หรือบริเวณที่กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ช่วยลดอาการปวดบวม
ด้วยการนำใบมะละกอสดๆ ไปย่างไฟหรือใช้น้ำร้อนลวก แล้วนำมาประคบบริเวณที่มีอาการ
หรือนำมาตำให้พอหยาบแล้วห่อด้วยผ้าขาวบางนำมาทำเป็นลูก ประคบก็ใช้ได้เหมือนกัน
- ช่วยป้องกันการเกิดอาการตับโต
หรือโรคที่เดียวกับตับเป็นยาช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรงมีงานวิจัยมะละกอพบว่า
การรับประทานมะละกอเป็นประจำมีส่วนช่วยในการต่อต้านโรคมะเร็งได้
ที่มา : วิกิพีเดีย
สารานุกรมเสรี, Philippine Herbal Medicine, USDA Nutrient
database