การคัดเลือกเมล็ดมะละกอมาทำพันธุ์
หัวใจสำคัญของการทำสวน “มะละกอ”ให้ประสบความสำเร็จเราต้องเตรียมการตั้งแต่การเริ่มคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ให้ได้คุณภาพ
รวมถึงการดูแลตั้งแต่ระยะเริ่มปลูกไปจนถึงระยะเก็บเกี่ยว ซึ่งจะอยู่ประมาณ 8-12
เดือน และในบทความนี้ผมก็มีอีกหนึ่งเทคนิคดีๆมากฝากกันเช่นเคยครับ
เป็นวิธีการคัดเลือกเมล็ดมะละกอเพื่อมาทำพันธุ์ มีหลักพิจารณาอย่างไรมาดูกันครับ
วิธีที่ 1
: มะละกอที่เหมาะจะนำเมล็ดมาขยายพันธุ์
ต้องเป็นมะละกอที่มีผลขนาดใหญ่ สมบูรณ์ และต้องสุกแก่เต็มที่ โดยให้แบ่งผลมะละกอตามขวางออกเป็น
3 ส่วน โดยใช้มีดที่คมและสะอาดตัดตามแนวที่แบ่งไว้ จะได้มะละกอ 3 ส่วน คือส่วนหัว
ส่วนกลาง และส่วนท้าย ส่วนการเลือกเมล็ดพันธุ์ให้เลือกเฉพาะส่วนกลางของผลเท่านั้น ซึ่งหากเราสังเกตให้ดีจะพบว่า
เมล็ดมะละกอจะมี 2 ลักษณะ คือ บางเมล็ดจะมีเปลือกด้านในสีดำเข้ม
และบางเมล็ดจะมีสีน้ำตาลคละกันอยู่ ให้เราเลือกเฉพาะเมล็ดสีดำเท่านั้น จากนั้นนำมาล้างให้เยื่อหุ้มคล้ายวุ้นหลุดออกจนสะอาดดีแล้ว
ให้นำไปผึ่งลมให้แห้ง แต่ห้ามนำไปผึ่งแดดเพราะจะทำให้เปอร์เซ็นต์ความงอกลดลง เมื่อเมล็ดแห้งสนิทดีแล้วจึงนำเมล็ดพันธุ์ทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นที่ช่องแช่ผักหรือนำไปลงถุงเพาะชำได้เลย
วิธีที่ 2 :
ให้เลือกมะละกอที่มีผลใหญ่สมบูรณ์ตามที่กล่าวไว้ในวิธีที่หนึ่ง
จากนั้นนำมาผ่าครึ่งเอาเมล็ดแช่น้ำได้เลย และให้เราเลือกเอาเฉพาะเมล็ดมะละกอที่จมน้ำ
ส่วนเมล็ดไหนที่ลอยน้ำก็ให้คัดออก จากนั้นให้นำเมล็ดมะละกอที่จมน้ำไปผึ่งลมพอแห้ง เมื่อเมล็ดแห้งสนิทดีแล้วจึงนำเมล็ดทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ในตู้เย็น
เพราะ”การเก็บรักษาเมล็ดมะละกอไว้ในตู้เย็นจะทำให้เปอร์เซ็นต์ การเป็นมะละกอต้นกะเทยสูงขึ้น”
เทคนิคทำให้เมล็ดมะละกองอกเร็วขึ้น
สำหรับเทคนิคที่ว่านี้ผมแอบได้มาจากลุงที่เป็นปราชญ์ชาวบ้านท่านหนึ่งในหมู่บ้าน
โดยท่านบอกว่า ถ้าอยากให้เมล็ดมะละกองอกเร็วขึ้น “ต้องทำลายระยะพักตัวโดยวิธีแช่น้ำร้อนเสียก่อน”
แต่น้ำร้อนที่ว่านี้ เอาเป็นว่าร้อนพอมือเราทนได้ก็แล้วกันครับ แล้วให้นำเมล็ดมะละกอที่คัดเลือกไว้ลงแช่ในน้ำร้อนดังกล่าว
กวนให้หมุนวนในน้ำร้อน
เพื่อให้เมล็ดมะละกอได้รับความร้อนอย่างสม่ำเสมอทั่วทุกเมล็ด ประมาณ 5 นาที
แล้วนำไปผึ่งลมให้แห้ง จากนั้นก็นำไปเพาะลงไปกระถางหรือถุงเพาะชำได้เลยครับ