วิธีบังคับเพศมะละกอให้เป็นต้นกะเทย
สิ่งสำคัญอันดับแรกๆที่เกษตรกรผู้ปลูกมะละกอต้องศึกษาและเรียนรู้คือเรื่องของ“เพศมะละกอ” เพื่อที่จะได้นำไปพัฒนาปรับปรุงเพิ่มผลผลิตสร้างรายได้ต่อไป และเพศมะละกอที่เราควรรู้จักก็มีอยู่
3 อย่างคือ
- ต้นมะละกอตัวผู้
จะเป็นต้นมะละกอที่ให้ช่อดอกเป็นช่อยาว มีดอกเดี่ยวหลายดอก แต่จะไม่ติดผล
ควรจะตัดทิ้งหรือทำการเปลี่ยนเพศเสียใหม่
- ต้นมะละกอตัวเมีย
จะเป็นต้นมะละกอที่ให้ผลกลมและป้อม เนื้อจะบาง และมีไส้กลวง ให้ผลผลิตน้อยมาก
ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด
- ต้นมะละกอกะเทย
จะเป็นต้นมะละกอที่ให้ผลยาวและผลจะมีขนาดใหญ่ มีเนื้อหนา รสชาติดี เป็นที่นิยมของตลาดอย่างมาก
ให้ผลผลิตสูง ซึ่งในผลของมะละกอกะเทยก็จะมีทั้งเมล็ดที่เป็นต้นตัวผู้ ต้นตัวเมีย
และต้นกะเทยรวมกันอยู่ภายใน
วิธีบังคับ “เพศมะละกอ” ให้เป็นต้นกะเทย
จากความรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่ผมได้ศึกษาเรียนรู้มา
เกี่ยวกับวิธีบังคับเพศมะละกอให้เป็นต้นกะเทยนั้น
เราต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก คือก่อนที่เราจะนำต้นกล้ามะละกอลงปลูกในแปลง
ให้เราตัดรากแก้วทิ้งประมาณ 5 เซนติเมตร หรือประมาณ 2 ข้อมือ คือให้วัดจากปลายรากมาหาโคนต้น
ไม่ใช่ตัดจากโคนไปหาปลาย แล้วค่อยนำลงปลูกตามปกติ ส่วนอีกวิธีหนึ่งก็คือ ในกรณีที่เราปลูกมะละกอจนกระทั่งโตพอสมควรแล้ว
และสังเกตเห็นว่าเป็นมะละกอต้นตัวผู้ที่เราไม่ต้องการ คือจะออกดอกเป็นช่อยาว
ดอกเดี่ยวจะมีขนาดเล็กสีขาว ประมาณ 15-20 ดอกต่อช่อ ยาวประมาณ 20-25 เซนติเมตร ให้ตัดคอมะละกอด้วยมีดที่คมและสะอาดให้ขาด
เหลือใบไว้เพียง 1-2 ใบก็พอ จากนั้นให้ทารอยแผลที่ตัดด้วยปูนแดงเพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าทำลาย
หมั่นบำรุงต้นด้วยการให้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยหมัก และฉีดพ่นด้วยน้ำหมักชีวภาพเป็นระยะ
อีกประมาณ 2-3 สัปดาห์ ต้นมะละกอก็จะแทงยอดใหม่ให้เราได้เห็น เราก็ทำการดน้ำและบำรุงรักษาให้ต้นสมบูรณ์แข็งแรงตามปกติ
อีกไม่นานยอดที่แทงออกมาใหม่ก็จะออกดอกติดผลเป็นมะละกอต้นกะเทยที่มีผลดกได้อย่างสมบูรณ์ครับ