ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

10 ประโยชน์ดีๆ ที่มีในมะละกอหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

มะละกอเป็นผลไม้ที่เราพบเห็นได้ทั่วไป แต่รู้หรือไม่ว่ามันมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายเกินกว่าที่คิด? วันนี้เราจะพาคุณไปสำรวจ 10 ข้อดีของมะละกอ พร้อมวิธีการบริโภคให้ได้ประโยชน์สูงสุด!

มะละกอสุก เพื่อสุขภาพ


1. ช่วยบำรุงผิวพรรณ์ให้ดูเปล่งปลั่งและอ่อนเยาว์อยู่เสมอ

มะละกออุดมไปด้วย วิตามิน A, C และ E ซึ่งมีส่วนช่วยลดเลือนริ้วรอย ต่อต้านอนุมูลอิสระ และทำให้ผิวเนียนนุ่มสุขภาพผิวดี

 2. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น

มะละกอมีเอนไซม์ที่มีชื่อว่า ปาเปน (Papain) ที่ช่วยสลายโปรตีนให้เล็กลง ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ง่ายขึ้น ช่วยลดอาการท้องอืดและลดปัญหาอาหารไม่ย่อยในร่างกายของเราได้

3. ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

มะละกอมีวิตามินซีสูง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย

4. ช่วยลดอาการอักเสบภายในร่างกาย

สารฟลาโวนอยด์และเอนไซม์ในมะละกอมีคุณสมบัติลดการอักเสบ ลดอาการปวดตามข้อ และช่วยบรรเทาอาการในผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบทางเดินอาหาร

 5. เป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนัก

มะละกอมีไฟเบอร์สูงแต่มีแคลอรีต่ำ เมื่อกินเข้าไปทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น และช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในร่างกายของเราได้

6. ช่วยดูแลสุขภาพดวงตา

มะละกอมี เบต้าแคโรทีนและลูทีน จึงมีส่วนช่วยบำรุงสายตา ลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น ต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อม

7. ดีต่อหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด

โพแทสเซียมและไฟเบอร์ในมะละกอช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ควบคุมความดันโลหิต และลดโอกาสเกิดโรคหัวใจได้

8. ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย

ไฟเบอร์ในมะละกอช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ ลดโอกาสเกิดอาการท้องผูก และช่วยทำความสะอาดลำไส้ของเราได้

9. เร่งการสมานแผล ทำให้แผลหายไว

ในมะละกอจะมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น และลดโอกาสเกิดแผลเป็น

10. ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด

เนื่องจากมะละกอมีดัชนีน้ำตาลต่ำ และมีสารที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาล


วิธีรับประทานมะละกอให้ได้ประโยชน์สูงสุด

-        ควรรับประทานมะละกอสดในช่วงเช้าหรือหลังอาหารเพื่อช่วยในการย่อย

-        หลีกเลี่ยงการรับประทานมะละกอที่สุกมากเกินไปเพราะอาจมีปริมาณน้ำตาลสูง

-        นำมาปั่นเป็นสมูทตี้หรือผสมในสลัดเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร


สรุป

มะละกอเป็นผลไม้ที่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพในหลายด้าน ตั้งแต่ระบบย่อยอาหาร ไปจนถึงผิวพรรณและภูมิคุ้มกัน หากคุณกำลังมองหาทางเลือกเพื่อสุขภาพ ลองเพิ่มมะละกอเข้าไปในเมนูอาหารประจำวันของคุณ!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การสังเกตมะละกอต้นใหน..? ต้นตัวผู้..ต้นตัวเมีย..หรือต้นกระเทย

เคล็ดลับสังเกตเพศมะละกอ ต้นมะละกอแบ่งออกเป็น 3 เพศ   คือ ต้นตัวผู้ ต้นตัวเมียและต้นสมบูรณ์เพศ หรือเรียกอีกอย่างว่ามะละกอต้นกระเทย โดยทั่วไปจะสังเกตเพศได้เมื่อต้นมะละกอ ออกดอกแล้วเท่านั้น ขณะนี้ยังไม่มีวิธีการใดที่จะบอกเพศมะละกอในขณะที่ยังเป็นต้นกล้าเล็ก ๆ หรือก่อนที่มะละกอออกดอกได้ *** เพศของดอกมะละกอมีตัวถ่ายทอดพันธุกรรม คือ ยีนส์เพียงคู่เดียวเป็นตัวควบคุม มีวิธีการสังเกตดังนี้ เพศมะละกอ 1. มะละกอต้นตัวผู้   มีช่อดอกยาวแตกแขนงเป็นสาย 70-120 เซนติเมตร ดอกบนช่อเป็นดอกสมบูรณ์เพศที่มีอวัยวะเพศเมียปรากฏอยู่แต่ไม่ทำหน้าที่ มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอกสีขาวหรือครีมโคนกลีบเป็นหลอด ปลายกลีบแยกกัน 5 แฉก บริเวณโคนติดกัน กลีบที่แยกกันนั้นจะมีอับเกสรตัวผู้สีเหลือง 10 ชุด   ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส และช่วงแสงต่อวันน้อย รังไข่ของดอกมะละกอต้นตัวผู้อาจเจริญพัฒนาติดเป็นผล หลังจากรับการถ่ายละอองเกสรตัวผู้ได้ มะละกอต้นตัวผู้นี้ปกติไม่ให้ผลคุ้มค่าการลงทุน ควรทำการตัดทิ้ง ดอกมะละกอตัวผู้ 2. มะละกอต้นตัวเมีย   จะเป็นต้นตัวเมียที่แท้จริ...

วิธีสังเกตช่อดอก และแยกเพศมะละกออย่างง่ายๆ

หลังจากคลุกคลีอยู่กับพืชหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผักหวานป่า อินทผาลัม หรือแม้กระทั่งไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้ง และไผ่ตงลืมแล้ง ตามแนวคิดที่ว่า ถ้าเดินเข้าสวนของผมก็ต้องมีของกินของขายแทบทุกชนิดรวมอยู่ในที่ดินเพียงผืนเดียว โดยใช้พื้นที่เพียง 12 ไร่ ด้วยความคิดที่ไม่หยุดยั้งตามด้วยการกระทำที่ไม่หยุดนิ่ง จึงได้เริ่มปลูกมะละกอฮอนแลนด์ประมาณหนึ่งไร่กว่าๆ เริ่มตั้งแต่นำเมล็ดมาเพาะเอง (3 ต้น/1ถุงเพาะชำ) จนได้ต้นกล้าอายุประมาณ 1 เดือน ปลูกด้วยระยะห่าง 2.5 x 2.5 เมตร เริ่มปลูกช่วงปลายเดือนกรกฎาคม มาถึงตอนนี้ (ตุลาคม) อายุมะละกอฮอนแลนด์ก็ได้ประมาณ 3 เดือน ก็มาถึงช่วงสำคัญ นั่นก็คือการแยกเพศมะละกอเพื่อให้ได้ต้นสมบูรณ์เพศหรือต้นกะเทย ตามภาษาชาวสวนมะละกอเขาเรียกกัน เพราะมะละกอเป็นพืชที่ไม่สมบูรณ์เพศ จะมี 3 เพศคือ  1. ต้นตัวผู้จะไม่ให้ผลผลิต 2. ต้นตัวเมียจะให้ผลผลิตรูปทรงกลมกลวง เนื้อไม่หนา ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด  3. ต้นสมบูรณ์เพศหรือต้นกะเทย อันนี้จะให้ผลรูปทรงกระบอกเรียวยาว เนื้อหนา เป็นที่ต้องการของตลาด ขายได้ราคาดี  บทความนี้ขออธิบายการสังเกตช่อดอกมะละกอให้ฟังพอคร่าวๆจากปร...

วิธีตัดต้นมะละกอ หรือ "ทำสาวมะละกอ" ให้ได้ต้นเตี้ย ติดลูกดก

พบกันอีกแล้วครับ..กับบทความเกษตรดีๆ รวมไปถึงเทคนิคเด็ด เคล็ดไม่ลับในการทำเกษตร ที่ผมนำมาฝากโดยเฉพาะสำหรับคนที่ปลูกมะละกอ ไม่ว่าจะเพื่อการค้าหรือว่ากันในเชิงพาณิชย์นะครับ ทำสาวมะละกอ เรื่องราวที่ผมจะนำมาบอกเล่าให้ฟังในวันนี้ เป็นอีกหนึ่งวิธีในการดูแล และยืดอายุมะละกอในสวนของเรา หรือเรียกง่ายๆก็คือการทำสาวมะละกอ ให้ได้ต้นเตี้ย ติดลูกดก มีวิธีง่ายๆดังนี้ครับ หลังจากเราเก็บผลผลิตมะละกอชุดแรกหรือคอแรกไปแล้ว (ต้นมะละกออายุประมาณ 1 หรือ 2  ปี) ให้เราตัดต้นทิ้ง 2 ส่วน เหลือไว้ส่วนเดียว (จากโคนต้นขึ้นมา) ในการตัดให้ตัดเฉียงด้วยเลื่อยหรือมีดคมๆ จากนั้นก็คลุมด้วยถุงหรือแก้วพลาสติกเพื่อกันไม่ให้น้ำเข้า เสร็จแล้วให้บำรุงต้นด้วยมูลสัตว์เก่า หรือปุ๋ยสูตร 46-0-0 ประมาณ 1 ช้อนแกง/ต้น เพื่อเร่งการแตกยอด สุดท้ายก็รดน้ำให้ชุ่่ม คลุมด้วยเศษฟางหรือใบไม้แห้ง เพื่อเก็บรักษาความชื้นเป็นอันเสร็จครับ ทำสาวมะละกอ ต้นเตี้ย ลูกดก ด้วยวิธีง่ายๆเพียงเท่านี้  ผ่านไปประมาณ 3 สัปดาห์แขนงข้างต้นก็จะเจริญเติบโตเป็นลำต้นใหม่ที่พร้อมให้ผลผลิตที่สมบูรณ์ในรุ่นต่อไปๆครับ