ปลูกมะละกอช่วงไหนให้ขายได้ราคาแพง?..เป็นอีกหนึ่งข้อสงสัยที่หลายๆคนคงอยากรู้
แต่สำหรับคนทำสวนมะละกออยู่แล้วก็น่าจะรู้ดีนะครับ
![]() |
มะละกอฮอลแลนด์ |
สำหรับเรื่องราวที่ผมจะนำมาบอกเล่าสู่กันฟังในวันนี้ขออิงจากประสบการณ์ที่ได้ปลูกมะละกอฮอลแลนด์มาก็หลายรุ่นหลายฤดูกาล
ให้ทุกท่านได้รับรู้พอเป็นแนวทาง
แต่ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามะละกอเป็นพืชที่มีอายุกลางๆไม่ถึงกับเป็นพืชระยะสั้นมากคือปลูกเพียงครั้งเดียวก็สามารถเก็บผลผลิตได้ยาวนานเกือบๆห้าปีถ้านับรวมคอสอง
(ต้นเก่า)
โดยเฉพาะมะละกอฮอลแลนด์ถือว่าเป็นมะละกอที่นิยมรับประทานผลสุกและเป็นผลไม้เศรษฐกิจคู่กับประเทศไทยมายาวนานเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก
มะละกอฮอลแลนด์จะให้ผลสุกในระยะเวลาประมาณ
8 เดือนตั้งแต่เริ่มเพาะเมล็ดปลูก
และจะขาดตลาดในช่วงเดือนมิถุนายน – เดือนตุลาคม
ทำให้ผลผลิตช่วงนี้จะมีราคาสูง
ซึ่งราคากลางตลาดไทและตลาดสี่มุมเมืองจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 50-80 บาทขึ้นไปเลยทีเดียว ส่วนราคาหน้าสวนขายแบบคัดตามเกรดจะอยู่ราวๆ 20
– 40 บาท
เพราะฉะนั้นถ้าอยากปลูกมะละกอให้ผลผลิตออกในช่วงแพงคือให้ได้เก็บผลผลิตจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป
เราก็นับถอยหลังไปอีก 8 เดือนคือให้เริ่มปลูกในช่วงปลายเดือนตุลาคม
– เดือนพฤศจิกายน ก็จะได้จำหน่ายในช่วงแพงนั่นเอง
ทำไมมะละกอช่วงนี้ถึงมีราคาแพง? อีกหนึ่งคำถามที่ผมคิดว่าหลายคนคงสงสัยกันแน่นอน
อย่างที่ผมได้บอกไปถ้าอยากให้ผลผลิตออกสู่ตลาดช่วงที่มีราคาแพงเราต้องปลูกในช่วงเดือนตุลาคม
– พฤศจิกายน
บังเอิญช่วงเวลาที่ว่านี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวและจะต่อเนื่องไปจนถึงหน้าแล้งพอดี
ถ้าเราเริ่มปลูกมะละกอในช่วงเดือนพฤศจิกายน ก็จะเริ่มติดตอกออกผลในช่วงเดือนกุมภาพันธุ์ต่อเนื่องไปตลอด
ซึ่งจะเข้าสู่ปลายฤดูหนาวและเป็นช่วงหน้าแล้ง
ระยะที่มะละกอกำลังติดดอกออกผลนี้ถือว่าสำคัญมาก
ถ้าหากเราไม่มีการดูแลและไม่มีการบำรุงต้นให้สมบูรณ์
หรือปล่อยให้มะละกอขาดน้ำขาดธาตุอาหาร จะทำให้มะละกอดอกร่วง ผลฝ่อและร่วง เกิดอาการที่เรียกว่าต้นมะละกอขาดคอ
และที่สำคัญสภาพอากาศที่แห้งแล้งในช่วงติดดอกอออกผล
ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศเหลือน้อยทำให้เกสรฝ่อขั้วดอกหลุดร่วงง่ายไม่ติดผลต่อเนื่องนั่นเองครับ
เพราะฉะนั้นแล้วในระยะที่มะละกอกำลังติดดอกออกผลควรหมั่นใส่ปุ๋ยทุก 10 – 15
วันในปริมาณที่พอเหมาะตามความสมบูรณ์ของต้น
ถ้าเป็นปุ๋ยเคมีในระยะติดดอกออกผลให้เน้นสูตร 8-24-24 บวกกับปุ๋ยมูลค้างคาวหรือปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ด
เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ หรือถ้าสวนเรามีการเตรียมดินที่ดี
ดินมีธาตุอาหารสมบูรณ์ ต้นมะละกอสมบูรณ์ดีอยู่แล้ว ให้ใส่แค่ปุ๋ยชีวภาพอย่างเดียวก็ได้
ไม่ควรเน้นปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว เพราะจะทำให้ดินเป็นกรดและเสื่อมสภาพได้
และที่สำคัญควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องทุกวันหรือวันเว้นวัน
ด้วยการให้น้ำด้วยระบบสปริงเกอร์ หรือมินิสปริงเกอร์
ให้เป็นละอองฝอยกระจายไปถึงช่อดอกเพื่อเสริมความชุ่มชื้นในบรรยากาศอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงหน้าฝน
เพียงเท่านี้มะละกอของเราก็จะติดผลอย่างต่อเนื่องและได้เก็บผลผลิตจำหน่ายในช่วงฤดูกาลที่มะละกอกำลังขาดตลาด
มีราคาแพงนั่นเองครับ.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น