ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มีนาคม, 2014

มะละกอ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ

มะละกอ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ประโยชน์ของมะละกอ คุณเคยรู้หรือไม่ว่าในเนื้อมะละกอ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่หลายชนิด โดยฐานข้อมูลของวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี , Philippine Herbal Medicine และ USDA Nutrient database ได้ระบุว่าในเนื้อมะละกอจะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยให้สุขภาพของคุณแข็งแรงช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ ช่วยในการชะลอวัย ช่วยลบเลือนและป้องกันการเกิดริ้วรอยต่างๆได้ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายได้เป็นอย่างดีด้วย และที่สำคัญสำหรับคุณสาวๆ แล้ว มะละกอยังสามารถนำมาใช้เป็นทรีทเม้นท์ ให้หน้าใสได้อีกด้วย วิธีการก็คือให้นำมะละกอสุกผสมกับน้ำผึ้งและนมสด แล้วนำมาปั่นให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำมาทาผิวหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วค่อยล้างออก หากทำเป็นประจำเพียงเท่านี้คุณก็จะมีผิวพรรณที่ดูอ่อนกว่าวัย สวยสดใสไร้ริ้วรอย ชนิดที่ว่าใครเห็นเข้า ก็อดที่จะเหลียวมองไม่ได้เลยทีเดียวครับ มะละกอ นอกจากจะนำไปแปรรูปเป็นเมนูอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแกงส้มมะละกอ หรือส้มตำมะละกอรสเด็ดได้แล้ว ยังใช้นำมารับประทานเป็นผลไม้หรือของว่าง แถมยังนำมะละกอไปใช้หมักให้เนื้

มะละกอ ผลไม้เพื่อสุขภาพ

มะละกอ ผลไม้เพื่อสุขภาพ สารอหารต่างๆในผลมะละกอ มะละกอที่เรารู้จักและนิยมรับประทานกัน จัดว่าเป็นไม้ล้มลุกอีกชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ “Carica Papaya” เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ ที่มีต้นกำเนิดจากอเมริกากลาง เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์และสารอาหารค่อนข้างหลากหลาย อีกทั้งยังมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรค เช่น ใช้เป็นยาระบาย ยาขับปัสสาวะ ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด เป็นต้น แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 ธาตุแคลเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก โปรตีน เป็นต้น แต่มีคำแนะนำจากนักวิชาการทางด้านสุขภาพว่า ไม่ควรรับประทานมะละกอที่สุกในปริมาณมากๆ หรือติดต่อกันเป็นเวลานานจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ผิวของคุณเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้นะครับ มะละกอผลไม้เพื่อสุขภาพ คุณค่าทางโภชนาการของมะละกอดิบ (ปริมาณ 100 กรัม) สารอาหารในมะละกอ พลังงาน 43 กิโลแคลอรี โปรตีน 0.47 กรัม คาร์โบไฮเดรต 10.82 กรัม น้ำตาล 7.82 กรัม เส้นใย 1.7 กรัม ไขมัน 0.26 กรัม วิตามินเอ 47 ไมโครกรัม 6% เบต้าแคโรทีน 274 ไมโครกรัม

มะละกอยักษ์ “เรดแคริเบี้ยน” มะละกอสายพันธุ์ใหม่

มะละกอยักษ์ “ เรดแคริเบี้ยน ” มะละกอยักษ์ “ เรดแคริเบี้ยน ” มะละกอสายพันธุ์ใหม่ สวัสดีครับเพื่อนๆคนรักเกษตรทุกท่าน สำหรับวันนี้ขออนุญาตนำเสนอมะละกออีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตรจังหวัดพิจิตร ได้นำเมล็ดพันธุ์มาจากประเทศทางแถบอเมริกากลาง และนำมาคัดเลือกพันธุ์ซึ่งใช้เวลานานกว่า 10 ปี จนประสบผลสำเร็จ มีรายละเอียดดังนี้ครับ มะละกอยักษ์ “ เรดแคริเบี้ยน ” มะละกอสายพันธุ์ใหม่ จะมีทรงผลคล้ายกับมะละกอเรดมาราดอล์ หรือที่บ้านเราเรียก มะละกอฮอลแลนด์ หรือปลักไม้ลาย แต่จะมีขนาดของผลใหญ่กว่ามาก คือมีขนาดผลใหญ่กว่าเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว น้ำหนักผลเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3-5 กิโลกรัม เป็นมะละกอที่มีเนื้อหนาและมีสีแดงส้ม และรสชาติหวานเหมือนมะละกอแขกดำ เนื้อส่วนในของ "มะละกอยักษ์ เรดแคริเบี้ยน" จากการปลูกทดสอบในแปลงพบว่า ต้นมะละกอยักษ์ “ เรดแคริเบี้ยน ” มีความทนทานต่อโรคไวรัสจุดวงแหวนได้ดีกว่ามะละกอสายพันธุ์อื่นๆ ที่ปลูกเปรียบเทียบกันในแปลง ลำต้นมะละกอยักษ์ “ เรดแคริเบี้ยน ” จะมีขนาดใหญ่ และมีความแข็งแรงอย่างเห็นได้ชัด ออกดอกและติดผลมีดกมาก ผลมีขนาดใหญ่ เป็นมะละกอที่มี

ต้นกำเนิด “ ส้มตำ ”

ความเป็นมาของส้มตำ ส้มตำ เมนูส้มตำ จัดเป็นอาหารที่ถูกปาก และเป็นที่รู้จักของคนไทยมานาน แต่ก่อนผมคิดว่าส้มตำนะจะเป็นอาหารประจำท้องถิ่นของคนอีสานหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือไม่ก็น่าจะมีต้นกำเนิดอยู่ในประเทศลาว แต่พอรู้ทีหลัง มันไม่ใช่อย่างที่คิดครับ แต่ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับเมนูส้มตำกันดีกว่า เริ่มจากนำมะละกอดิบมาปอกเปลือกออกล้างน้ำ เพื่อล้างยางมะละกอออกให้หมด ตำพริกหนุ่มหรือพริกแห้งแล้วแต่ชอบ พร้อมกระเทียม 2 กลีบโขลกให้ละเอียดพอดี จากนั้นใส่เส้นมะละกอลงในครก ตามด้วยมะเขือเทศผ่าคึ่งหรือฝานเป็นแว่นสัก 2-3 ลูก อีกทั้งกุ้งแห้ง ถั่วลิสง ปูดอง ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ปลาร้า บีบมะนาวใส่ครึ่งลูกตำรวมกันปรุงรสให้ออกเปรี้ยวนิดๆ รับประทานกับข้าวเหนียวไก่ย่าง ตามด้วยผักสดเช่นผักบุ้ง ผักกาด หรือถั่วฝักยาว อร่อยอย่าบอกใครเลยเชียว สำหรับ "ส้มตำ" ที่เรารู้จักและเป็นที่คุ้นหูคุ้นตากันดี ตามที่กล่าวมานี้   “วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี” ให้รายละเอียดไว้ว่า “ส้มตำ” จัดเป็นอาหารสมัยใหม่ ถือกำเนิดมาประมาณ 40 กว่าปีมานี้เอง ทั้งนี้เนื่องจากมะละกอที่เราปลูกกันอยู่ในปัจจุบันนี้ เป็น